วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556



สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและการกระจายของป่าชายเลน



              ประเทศไทยมีความยาวชายฝั่งทะเลทั้งประเทศ 2,667 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 24 จังหวัด ตั้งแต่ฝั่งอ่าวไทยจากจังหวัดตราดในภาคตะวันออกตลอดแนวชายฝั่ง ถึงภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จังหวัดนราธิวาส มีความยาว 1,653 กิโลเมตร และทางด้ายชายฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนอง จนถึงจัหวัดสตูลชายแดนติดประเทศมาเลเซีย มีความยาว 1,014 กิโลเมตร โดยตลอดความยาวของชายฝั่งมีทรัพยาป่าชายเลนขั้นอยู่อย่างหนาแน่นกระจายตามภูมิประเทศต่างๆ เช่น อ่าว ปากแม่น้ำ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันมีเนื้อที่ชายเลนมากที่สุด ในอดีตที่ผ่านมาป่าชายเลนของประเทศไทย ยังความอุดมสมบูรณ์มากถึง 2.3 ล้านไร่ 





             ในอดีตการจัดการพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทย ช่วงก่อนปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลอนุญาติให้เอกชนทำไม้ป่าชายเลน โดยให้สัมปทานทำไม้ป่าชายเลนเพื่อผลิตถ่านไม้อย่างเดียว ซึ่งมีรุปสัมปทานทำำไม้จำนวนไม่มากแต่ต่อมาภายหลังปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลได้มีการปรับปรุงแผนการจัดการป่าชายเลนในเรื่องเกี่ยวกับระยะเวลาการให้สัมปทานเป็นช่วงเวลา 15 ปี และกหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิในการรับสัมปทาน ให้เป็นไปตามมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2509 และการให้สัมปทานทำไม้ได้ดำเนินการเรื่อยมาจนสิ้นสุดสัมปทานแปลงสุดท้าย ตามมติคณะัรัฐมนตรี เมื่อที่ 19 พฤศจิกายน 2539 ให้มีการยกเลิกการให้สัมปทานทำไม้ในเขตป่าชายเลน เมื่ออายุการให้สัมปทานทำไม้สิ้นสุดลงทั้งหมดในปี พ.ศ. 2546 อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพื้นที่ป่าชายเลนได้มีการเปลี่ยนแปลงและมีการใช้ประโยชน์จากกิจกรรมต่างๆ มาโดยตลอดทำให้พื้นที่ป่าชายเลนลดลงมา เนื่องจากสาเหตุสำคัญหลายประการ ได้แก้ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การบุกรุกเพื่อทำนากุ้ง การทำนาเกลือ การขยายตัวของเขตเมือง การท่องเที่ยวและการอุตสาหกรรม จนปัจจุบันมีพื้นที่ป่าชายเลนเหลือเพียงประมาณ 1.5 ล้านไร่ 

       นอกจากนี้ชุมชนชายฝั่งที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนหรือติดกับป่าชายเลนประมาณ 1,000 หมู่บ้าน ยังมีความจำเป็นที่ต้องพึ่งพาอาศัยป่าชายเลนตามวิถึชีวิตและภูมิปัญญาที่มีอยู่ ทั้งด้านการทำประมงชายฝั่งและการใช้ไม้เพื่อใช้าสอยในครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันหากจะจำแนกสภาพปัญหาป่าชายเลนตามสภาพพื้นที่และวิถีชีวิต วัฒนธรรมแล้ว สามารถแบ่งออกได้ คือ







1. พื้นที่ป่าชายเลนที่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่ และมีบางส่วนที่ชุมชนเข้าไปอยุ่อาศัย และใช้ประโยชน์ต่างๆ พบมากในบริเวณพื้นที่ป่าชายเลนชายฝั่งทะเลอันดามัน ในจังหวัดระนอง พังงา กระบี่ ตรัง สตูลและจังหวัดภูเก็ต 

2. พื้นที่ป่าชายเลนที่มีราษำรเข้าบุกรุกครอบครองและเข้าใช้ประโยชน์เพื่อการเลี้ยงกุ้ง พบมากในพื้นทป่าชายเลนบริเวณภาคตะวันออกในจังหวัดระยอง และจันทบุรี บริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 

ท้องที่จังหวัดสุราษร์ธานี และนครศรีธรรมราช 

3. พื้นที่ป่าชายเลนที่ออกเอกสารสิทธิครอบครองตามกฎหมายและมีอาชีัพการปลูกป่าชายเลน แต่ประสบปัญหาไม้คุ้มทุน จึงเปลี่ยนแปลงไปทำเป็นพื้นที่นากุ้ง และขายที่ดินให้กับเอกชน ปัจจุบัน มีปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ส่วนในบริเวณพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณอ่าวไทยตอนบน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี